บิ๊กอ๊อด ยังมั่นใจ! บริหารงานสมาคมฟุตบอลไทยดีแล้ว  

 บิ๊กอ๊อด ยังมั่นใจ! บริหารงานสมาคมฟุตบอลไทยดีแล้ว
 
แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้เพื่อนๆคุณรู้สิ 
 ข่าวเมื่อ : 08 ธันวาคม 2561     เข้าชม : 87 ครั้ง
 

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ประชุมสรุปผลงาน จากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018" และเตรียมแผนสู้ศึก เอเชียนคัพ 2019

 

ทั้งนี้ ทีมชาติไทย ภายใต้การนำของ ราเยวัช เพิ่งจอดป้ายแค่รอบรองชนะเลิศ ชิงแชมป์อาเซียน เสียท่ามาเลเซีย ด้วยกฎอเวย์โกล หลังจากเสมอ 2 นัด 2-2 โดย มาเลเซีย เข้าไปชิงชนะเลิศ กับ เวียดนาม วันที่ 11 และ 15 ธ.ค. ส่วนไทย เตรียมลุยต่อเอเชียนคัพ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ร่วมกลุ่ม A กับ ยูเออี, บาห์เรน และ อินเดีย เริ่มนัดแรก 6 ม.ค.

 

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สำหรับ ราเยวัช นั้น ผลงานเอเชียนคัพ จะเป็นเครื่องชี้วัด และพิจารณาว่าต่อสัญญญาหรือไม่ ความคาดหมายคือผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือมากกว่านั้นก็เป็นเรื่องดี เพราะสัญญาของ ราเยวัช จะหมดลงในเดือน พ.ค. ปีหน้า ตนได้บอก โค้ชมิโล ว่าแฟนบอลคนไทยอยากเห็นรูปแบบการเล่นที่บุกบ้าง ทว่าตนเองไม่ก้าวก่ายความคิด ซึ่ง ราเยวัช บอกว่าศึกษาอดีตปี 2014 ที่ไทยชิงซูซูกิคัพ กับ มาเลเซีย นัด 2 ไทยโดนนำก่อน 0-3 จึงไม่อยากให้เกิดแบบนั้น เลยเน้นรัดกุม ตนก็บอกว่า คนไทยอยากให้มีรูปแบบการเล่นหลากหลาย มีทั้งรุกและรับ อย่างไรก็ตามในเอเชียนคัพ ที่คู่แข่งเป็นอีกระดับก็คงต้องเล่นรัดกุม

 

ส่วนเรื่องกระแสแฟนบอลที่ค่อนข้างผิดหวังผลงานทีมชาติไทย นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การที่ตนเข้ามาทำหน้าที่ จะพัฒนามิติใดมิติหนึ่งไม่ได้ ต้องหลายมิติ ช่วงที่ตนเข้ามาก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมากมาย ส่วนเรื่องในสนามก็พยายามเต็มที่ ในหน้าที่ที่รับผิดชอบ ไม่ก้าวก่ายการทำงานของโค้ช ทว่าก็ยอมรับว่า เมื่อผลออกมาก็ปัดไม่ได้ ว่าอยู่ในความรับผิดชอบของสมาคมฯ

 

"เราพยายามทำดีที่สุดต้องเดินไปข้างหน้า ถ้ามันจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องหาหนทางที่ดีขึ้น ผมเข้ามาแค่3 ปี ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาวงการ ถ้าฟุตบอลไทยจะทัดเทียมชาติชั้นนำ อย่างน้อยต้อง 20 ปี ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาของผมแล้ว แต่ผมอยากทิ้งวิธีการต่างๆ ในการพัฒนา ซึ่งคัดเลือกจากประเทศที่ประสบควาสสำเร็จ ซึ่งประเทศเหล่านั้นพัฒนากันมา 30-40 ปี ผมมาทำได้แค่ 3 ปี ทำมาแค่นี้ก็ถือว่าทำได้เยอะแล้ว"

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกเสียกำลังใจหรือไม่ ประมุขลูกหนัง ตอบว่า ไม่เสียกำลังใจ สิ่งที่แฟนบอลติติง ท้วงติง เป็นเรื่องดีทั้งนั้น เพราะทุกคนรักในทีมชาติไทย อยากให้ทีมชาติไทยก้าวไปไกลกว่านี้ แต่ต้องใช้เวลา ตนมาวางรากฐาน วันข้างหน้าคนที่เข้ามาจะได้เดินบนถนนลาดคอนกรีต ไม่ใช่ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ

 

ปล.ขอขอบคุณเนื้อหาทั้งหมดจากwww.dailynews.co.th

อ้างอิง :